สัมภาษณ์นานแล้ว ไม่ตอบกลับมาสักที...
ปกติแล้วกระบวนการตัดสินใจเลือกผู้เข้าสัมภาษณ์งานในแต่ละรอบของบริษัทส่วนใหญ่อยู่ที่ 1 ถึง 2 สัปดาห์ ขอย้อนไปก่อนหน้านี้ที่ฉันแนะนำให้ถามผู้สัมภาษณ์ก่อนออกจากห้องว่า...คุณสามารถโทรเข้ามาสอบถามผลการสัมภาษณ์ได้เมื่อไหร่

คำตอบที่ได้รับจะทำให้คุณไม่ต้องกังวลใจกับการโทรเข้าไปถามผล หลายคนที่ไม่ถามคำถามนี้ก่อนมักเกิดอาการไม่มั่นใจ กลัวที่ต้องโทรไปถามผลการสัมภาษณ์เพราะไม่รู้ว่าถามเร็วเกินไปหรือเปล่า บริษัทตัดสินใจแล้วหรือยัง คล้ายกับไม่รู้ว่าจะก้าวไปข้างหน้าหรือถอยหลังดี ไม่แน่ใจ เพื่อลดอาการดังกล่าวขอแนะนำว่า...ห้ามลืมถามเด็ดขาด ถ้าคุณอยากเป็นผู้หางานอย่างชาญฉลาด

ถ้าโทรไปถามตามเวลาที่บริษัทแจ้งไว้ แล้วได้รับคำตอว่า "ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา" ขอให้สรุปไว้ 2 ประเด็นคือ ยังอยู่ในกระบวนการจริงๆ และคุณไม่ใช่คนที่เขาเลือก หลายบริษัทมักไม่บอกผลกับผู้ที่ไม่ผ่านการคัดเลือก อาจเพราะไม่อยากทำให้ใครเสียใจด้วยคำพูด แต่เลือกใช้เวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ เป็นตัวเฉลยคำตอบให้ผู้สมัครคนนั้นรู้ได้เองโดยนัยดีกว่า

หากคุณคิดว่ายังอยู่ในกระบวนการพิจารณาจริงๆ ขอให้ถามบริษัทว่าคุณสามารถโทรเข้าไปถามผลได้อีกครั้งเมื่อไหร่ แล้วโทรไปตามนั้น ถ้าคำตอบที่ได้ยังเป็นเหมือนเดิม 99.99% ขอให้ทำใจยอมรับเถอะ คุณพลาดงานนั้นแล้วแน่นอน

แต่คุณจะไม่มีทางพลาดงานอื่นๆได้อีก ถ้ามีความกล้าเพิ่มอีกนิด ลองถามบริษัทดู คุณไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนั้นอย่างไร มีจุดใดบ้างที่ต้องปรับปรุงแก้ไข ไม่ต้องกลัวที่จะถามมันจะทำให้คุณไม่เสียความมั่นใจและสบายใจมากขึ้นกับคำปฏิเสธที่เพิ่งได้รับมา...เชื่อสิ

บางครั้งการที่คุณพลาดงานบางงานไปไม่ได้เกิดจากความไม่ดีของคุณ แต่อยู่บนฐานความไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหรือองค์กรนั้นมากกว่าและความไม่เหมาะสมดังกล่าวก็ไม่ใช่ความผิดพลาดของคุณแต่อย่างใด ในเมื่อไม่เหมาะกับงานนี้ก็ต้องมีสักงานที่เหมาะรอคุณอยู่แน่นอน แต่คุณยังไม่ได้พลมันก่อนเท่านั้น

นักศึกษาจบใหม่คนหนึ่งมาสัมภาษณ์งานด้วยคุณสมบัติที่ดีทั้งความรู้ทัศนคติ และบุคลิกภาพของเขาทำให้ระกว่างการสัมภาษณ์ผู้สัมภาษณ์เผลอแสดงความพอใจออกไปให้เขาเห็นและมีการพูดเปรยๆ ถึงโอกาสของการได้ร่วมงานกันที่มีสูงหลังการสัมภาษณ์วันนั้นเขาจึงค่อนข้างมั่นใจมากกว่าจะผ่านการคัดเลือกเข้าทำงานในตำแหน่งนี้ แต่พอมารู้ตอนหลังว่าคนที่ถูกเลือก ไม่ใช่เขา อาการสงสัยจึงเกิดขึ้น เขากล้าถามกับฉัน เขาไม่เหมาะสมตรงไหน มีอะไรที่เขาทำพลาดไปหรือเปล่า...

ฉันบอกไป เขาเหมาะมากๆ กับงานนี้ และผู้สัมภาษณ์ก็เห็นว่าเขาจะสามารถทำงานี้ได้อย่างดีและมีความสุข ถ้าไม่บังเอิญไปสัมภาษณ์ผู้สมัครอีกคนต่อจากเขาในวันนั้น แล้วพบว่าคุณสมบัติของทั้งสองคนคล้ายกันมาก ต่างกันเพียงคนหลังมีประสบการณ์เกี่ยวกับงานนี้มาก่อนเกือบ 2 ปี เทียบกับเขาซึ่งยังไม่เคยผ่านการทำงานมาเลย บวกกับงานที่ต้องการคนมาสานต่ออย่างรวดเร็ว ไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับการเรียนรู้งานของผู้ที่จบใหม่

ไม่มีอะไรที่เขาพลาด ไม่มีอะไรที่เขาผิด แต่งานนี้ยังไม่เหมาะกับเขาต่างหาก ฉันโล่งใจที่ได้
บอกความจริงกับผู้สมัครที่ไม่ได้รับเลือกเข้าทำงานคนหนึ่ง เขาเองก็คงโล่ใจที่อย่างน้อยเขาไม่ได้มีอะไรบกพร่อง ความมั่นใจยังคงมีอยู่เต็มเปี่ยมเหมือนเดิม แถมบางทีอาจมากกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ ด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์ในการทำหางานที่เพิ่มขึ้น ฉันเชื่อ วันหนึ่งเขาต้องพบและทำความรู้จักสนิทสนมกับงานที่เหมาะสมกับเขาด้วยประการทั้งปวงได้อย่างแน่นอน
อย่าท้อ อย่าโทษตัวเอง ถ้าคุณไม่ใช่คนที่บริษัทเลือกแต่จงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้รับ แล้วนำมาแปรเป็นพลังและกำลังใจ เพื่อใช้เป็นเชื่อเพลิงสำหรับการเดินทางครั้งใหม่ที่ดีที่สุดของตัวเอง



ขอขอบคุณ...คุณปนัฎดา สังข์แก้ว
จากหนังสือ "กลยุทธ์เด็ด คว้างานดี ชีวิตนี้ไม่มีเตะฝุ่น."
เจ้าของผลงานล่าสุด..."คู่มือคนหางาน 108-1009 ตอบปัญหาคาใจ"

BuddyJob.com © Copyright 2004-2024 All right reserved. | ข้อตกลงการใช้บริการ |