เมื่อเดือนก่อนเพื่อนสองคนที่ฉันคบหามาอย่างยาวนานได้ทำลายความไว้ใจของฉัน คนหนึ่งทำบางอย่างที่สำคัญมากสำหรับฉันแต่ไม่ยอมบอกฉัน ส่วนอีกคนก็เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของฉันกับคนแปลกหน้า เล่นเอาฉันไม่รู้เลยว่าคนไหนทำให้รู้สึกแย่กว่ากัน จำตอนที่คุณรู้สึกเหมือนถูกหักหลังได้ไหม? ยังจำครั้งแรกตอนที่คุณรู้ว่าคนที่คุณรู้จักเป็นอย่างดีมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมได้ไหม? คุณทำอย่างไร? พยายามไม่ทุกข์ใจหรือระแวงใช่ไหม? แม้ว่าชีวิตของคุณจะสมดุลและมั่นคงแต่ความไว้ใจเมื่อถูกทำลายไปครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งที่สองก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นไปอีกหากคุณปล่อยผ่านเลยไป บางครั้งคุณไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น คุณต้องใช้ใจสัมผัส และหากมีคนอื่นที่ไว้ใจคุณ คุณก็จะรู้สึกว่าคุณไว้ใจพวกเขาได้เช่นกันแม้ว่าคุณจะอยู่ท่ามกลางความมืดมิดหรือสิ้นหวัง ปฏิกิริยาแรกของฉันคือการนึกถึงสถานการณ์ที่บีบหัวใจซ้ำไปซ้ำมา ขุดลึกเข้าไปในความทรงจำ ฉันโง่มากใช่ไหม? ฉากเหล่านั้นครอบงำจิตใจของฉันมากกว่าช่วงเวลาแห่งความสุขกับคนอื่นๆในปัจจุบันซะอีก ด้วยเหตุนี้ฉันจึงเฝ้ามองคนอื่นด้วยความระแวดระวัง เราทุกคนล้วนต้องเคยสูญเสียความไว้ใจอย่างเจ็บปวดรวดร้าว ในทางกลับกันบางครั้งเราก็เคยทรยศความไว้ใจของคนอื่นและหลบเลี่ยงไปแทนที่จะแก้ไขสถานการณ์เหล่านั้น
การกลับสู่สมดุลคือการปล่อยทุกอย่างให้ผ่านไปทั้งการกระทำในแง่ลบและรากเหง้าของความกลัว แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องยืนอยู่กลางถนนและให้รถคันเดิมพุ่งชนซ้ำอีก คุณอาจถูกหลอกถ้าไว้ใจมากเกินไปแต่คุณจะอยู่อย่างทรมานหากคุณยังเชื่อใจไม่พอ คราวหน้าหากคุณสูญเสียความเชื่อใจสำหรับใครบางคนไป ลองปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อให้ตัวเองใจเย็นลงและเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่แย่ไปกว่าเดิม
1 ปล่อยให้ความรู้สึกของการถูกหักหลังท่วมท้นอย่างเต็มที่ แต่อย่าคิดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำๆมากเกินกว่า 3 ครั้ง
2 ลองเข้าไปอยู่ในมุมมองของคนอื่นและดูว่านี่คือพฤติกรรมของเขาที่มีต่อคุณหรือเป็นความผิดปกติกันแน่?
3 พิจารณาเจตนาด้านบวกของบุคคลนั้นโดยเฉพาะตอนที่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นั้น คุณจะเห็นภาพรวมได้อย่างสงบและชัดเจนยิ่งขึ้น
4 ยกย่องพฤติกรรมของบุคคลนั้นที่คุณต้องการสนับสนุนให้ก้าวหน้า นี่คือหนึ่งในวิธีการป้องกันตัวที่เหมาะสมมากที่สุดในช่วงเวลาแบบนี้
5 หากคุณต้องการรักษามิตรภาพ จงหาเวลาพูดคุยแต่อย่ากล่าวโทษกัน ให้อธิบายเฉพาะพฤติกรรมที่กวนใจคุณตามด้วยความรู้สึกของคุณแล้วก็รอคำตอบ
6 จงรอฟังคำตอบอย่างเปิดใจ หากคุณมองเห็นการกระทำของเธอชัดเจนและเธอไม่แสดงท่าทีใดๆว่าจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม งั้นก็ถือว่าคุณได้บทเรียนเยอะแล้ว
7 หากใครทำลายความเชื่อใจของคุณถึงสองครั้งก็มีแนวโน้มสูงว่าจะมีครั้งที่สามตามมา กุญแจสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเราคือการตระหนักถึงระยะห่างที่เหมาะสมในการเกาะกุมพวกเขาไว้ ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นการกระทำของอีกฝ่ายหรือของเราเอง ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลงระยะห่างนั้นได้
8 จงกะระยะห่างของตัวเองให้ดีขณะที่ดึงเอาด้านดีของอีกฝ่ายออกมา พูดคุยถึงเจตนาด้านบวกของพวกเขาโดยเฉพาะตอนที่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่มีเลย อย่าลืมว่าคุณมักจะมี 3 ตัวเลือกในทุกๆสถานการณ์ได้แก่ 1.เปลี่ยนแปลงวิธีปฏิบัติต่อบุคคลนั้น 2.ยอมรับพฤติกรรมของบุคคลนั้น หรือ 3.ออกจากความสัมพันธ์
การปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ ไม่ช้าก็เร็วคุณจะสามารถฟื้นฟูความสมดุลทางอารมณ์มากกว่าที่จะยึดติดอยู่กับการหักหลัง จงเลือกสิ่งที่สามารถทำได้ในทางบวกเพื่อตัวคุณเองแทนที่จะต่อต้านบุคคลอื่น ยิ่งคุณออกมาจากสถานการณ์ในแง่ลบนั้นได้เร็วเท่าไหร่ชีวิตของคุณก็ยิ่งคืนสู่ความสมดุลและมั่นคงได้เร็วเท่านั้น
Blogger : Kare AndersonSource : huffingtonpost.com
